M Holetox – โบ-ท็อกซินด้านหลัง
ทางเลือกในการลดปัญหาแผลปริขอบทวารหนัก
แผลปริขอบทวารหนักคืออะไร?
แผลปริที่ทวารหนัก (Anal Fissure) คือรอยฉีกขาดเล็ก ๆ บริเวณเยื่อบุทวารหนัก ซึ่งมักเกิดจาก:
✅ อาการท้องผูก
✅ การเบ่งอุจจาระแรงเกินไป
✅ ท้องเสียเรื้อรัง
อาการของแผลปริขอบทวารหนักมักรวมถึง อาการปวดรุนแรงและเลือดออก โดยเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ แม้ว่าการรักษาเบื้องต้น เช่น การปรับอาหาร เสริมใยอาหาร หรือการใช้ยาทาภายนอก อาจช่วยบรรเทาได้ แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้วิธีการรักษาที่ก้าวหน้าขึ้น
โบ-ท็อกซินช่วยลดปัญหาแผลปริขอบทวารหนักได้อย่างไร?
โบ-ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นสารที่ช่วย ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว โดยการปิดกั้นสัญญาณประสาท
🩺 เมื่อฉีดโบ-ท็อกซินเข้าไปที่ กล้ามเนื้อหูรูดภายในของทวารหนัก (Internal Anal Sphincter) จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดแรงกดในทวารหนัก ทำให้แผลสมานตัวเองได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของโบ-ท็อกซินในการลดปัญหาแผลปริขอบทวารหนัก
✔️ ไม่ต้องผ่าตัด – ต่างจากการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูด (Lateral Internal Sphincterotomy) ที่ต้องมีการกรีดแผลโบ-ท็อกซินเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด
✔️ บรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว – โบ-ท็อกซินช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการเกร็ง ทำให้ความเจ็บปวดลดลงภายในไม่กี่วัน
✔️ อัตราความสำเร็จสูง – งานวิจัยพบว่าโบ-ท็อกซินสามารถช่วยรักษาแผลปริขอบทวารหนักเรื้อรังได้
✔️ ความเสี่ยงของภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้ต่ำกว่าการผ่าตัด – การฉีดโบ-ท็อกซินไม่มีผลกระทบถาวรต่อกล้ามเนื้อหูรูด ลดโอกาสเกิดภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้ที่พบได้ในบางรายที่ผ่าตัด
✔️ ฟื้นตัวได้เร็ว – ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ ภายใน 1-2 วันหลังฉีดโบ-ท็อกซิน
ขั้นตอนการฉีดโบ-ท็อกซิน: คาดหวังอะไรได้บ้าง?
การฉีดโบ-ท็อกซินเป็นหัตถการที่ทำในคลินิกแบบผู้ป่วยนอก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที มีขั้นตอนดังนี้
🔹 อาจใช้ ยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดอาการเจ็บ
🔹 แพทย์จะฉีดโบ-ท็อกซิน ปริมาณ 20-100 ยูนิต เข้าไปที่กล้ามเนื้อหูรูดภายใน
🔹 ผลของโบ-ท็อกซินจะเริ่มเห็นผล ภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ และแผลมักสมานตัวเต็มที่ภายใน 6-8 สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่าโบ-ท็อกซินจะปลอดภัย แต่บางคนอาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น
⚠️ ภาวะกลั้นอุจจาระหรือแก๊สไม่ได้ชั่วคราว – มักหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์
⚠️ อาการปวดหรือบวมเล็กน้อย บริเวณที่ฉีด
⚠️ อาการแพ้ (พบได้น้อยมาก)
โบ-ท็อกซินเหมาะกับคุณหรือไม่?
✅ หากคุณมีแผลปริขอบทวารหนัก เรื้อรัง และ ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอนุรักษ์นิยม โบ-ท็อกซินอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ
❌ แต่หากโบ-ท็อกซินไม่ได้ผลแม้ฉีดซ้ำหลายครั้ง การผ่าตัดอาจเป็นตัวเลือกสุดท้าย
สรุป
โบ-ท็อกซินเป็นทางเลือกที่ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องผ่าตัด ในการรักษาแผลปริขอบทวารหนัก โดยช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหูรูด บรรเทาอาการปวด และเร่งการสมานแผล
หากคุณกำลังประสบปัญหา แผลปริขอบทวารหนัก ควร ปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาว่าโบ-ท็อกซินเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่