M Holetox โปรแกรมฉีด Botulinum toxin ด้านหลัง
ทางเลือกในการลดปัญหาแผลปริขอบทวารหนัก
แผลปริขอบทวารหนักคืออะไร?
แผลปริที่ทวารหนัก (Anal Fissure) คือรอยฉีกขาดเล็ก ๆ บริเวณเยื่อบุทวารหนัก ซึ่งมักเกิดจาก: อาการท้องผูก
การเบ่งอุจจาระแรงเกินไป
ท้องเสียเรื้อรัง
อาการของแผลปริขอบทวารหนักมักรวมถึง อาการปวดรุนแรงและเลือดออก โดยเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ แม้ว่าการรักษาเบื้องต้น เช่น การปรับอาหาร เสริมใยอาหาร หรือการใช้ยาทาภายนอก อาจช่วยบรรเทาได้ แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้วิธีการรักษาที่ก้าวหน้าขึ้น
โปรแกรมฉีด Botulinum toxin ช่วยลดปัญหาแผลปริขอบทวารหนักได้อย่างไร?
Botulinum toxin เป็นสารที่ช่วย ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว โดยการปิดกั้นสัญญาณประสาท
เมื่อฉีด Botulinum toxin เข้าไปที่ กล้ามเนื้อหูรูดภายในของทวารหนัก (Internal Anal Sphincter) จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดแรงกดในทวารหนัก ทำให้แผลสมานตัวเองได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของ Botulinum toxin ในการลดปัญหาแผลปริขอบทวารหนัก
ไม่ต้องผ่าตัด – ต่างจากการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูด (Lateral Internal Sphincterotomy) ที่ต้องมีการกรีดแผล โปรแกรมฉีด Botulinum toxin ด้านหลังเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด
บรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว – โปรแกรมฉีด Botulinum toxin ด้านหลัง ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการเกร็ง ทำให้ความเจ็บปวดลดลงภายในไม่กี่วัน
อัตราความสำเร็จสูง – งานวิจัยพบว่า Botulinum toxin สามารถช่วยรักษาแผลปริขอบทวารหนักเรื้อรังได้
ความเสี่ยงของภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้ต่ำกว่าการผ่าตัด – การฉีด Botulinum toxin ไม่มีผลกระทบถาวรต่อกล้ามเนื้อหูรูด ลดโอกาสเกิดภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้ที่พบได้ในบางรายที่ผ่าตัด
ฟื้นตัวได้เร็ว – ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ ภายใน 1-2 วันหลังฉีด Botulinum toxin
ขั้นตอนการฉีด Botulinum toxin : คาดหวังอะไรได้บ้าง?
การฉีด Botulinum toxin เป็นหัตถการที่ทำในคลินิกแบบผู้ป่วยนอก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที มีขั้นตอนดังนี้
อาจใช้ ยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดอาการเจ็บ
แพทย์จะฉีด Botulinum toxin ปริมาณ 20-100 ยูนิต เข้าไปที่กล้ามเนื้อหูรูดภายใน
ผลของ Botulinum toxin จะเริ่มเห็นผล ภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ และแผลมักสมานตัวเต็มที่ภายใน 6-8 สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่าโบ-ท็อกซินจะปลอดภัย แต่บางคนอาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น
ภาวะกลั้นอุจจาระหรือแก๊สไม่ได้ชั่วคราว – มักหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์
อาการปวดหรือบวมเล็กน้อย บริเวณที่ฉีด
อาการแพ้ (พบได้น้อยมาก)
โปรแกรมฉีด Botulinum toxin ด้านหลัง เหมาะกับคุณหรือไม่?
หากคุณมีแผลปริขอบทวารหนัก เรื้อรัง และ ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอนุรักษ์นิยม โบ-ท็อกซินอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ
แต่หาก Botulinum toxin ไม่ได้ผลแม้ฉีดซ้ำหลายครั้ง การผ่าตัดอาจเป็นตัวเลือกสุดท้าย
สรุป
โปรแกรมฉีด Botulinum toxin ด้านหลัง เป็นทางเลือกที่ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องผ่าตัด ในการรักษาแผลปริขอบทวารหนัก โดยช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหูรูด บรรเทาอาการปวด และเร่งการสมานแผล
หากคุณกำลังประสบปัญหา แผลปริขอบทวารหนัก ควร ปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาว่าโบ-ท็อกซินเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่




