ข้อดีข้อเสียของการฉีดเพิ่มขนาด
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาด
- ได้ผลทันที ไม่ต้องฉีดหลายครั้ง เลือกขนาดได้ตามปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป
- อยู่ได้นาน 18 เดือน ขึ้นกับยี่ห้อและปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดด้วย
- ไม่มีบาดแผลผ่าตัด ไม่เสี่ยงมีผังผืด พักฟื้นน้อย
- สามารถฉีดที่หัว (glans penis) เพื่อเพิ่มขนาดหัวและลดปัญหาการหลั่งเร็ว
- สลายได้เอง ไม่เสี่ยงเป็นก้อนหรือไหลในระยะยาว ไม่เสี่ยงมะเร็งเหมือนสารแปลกปลอม
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาด
- ในคนที่ไม่ขริบ ฟิลเลอร์อาจไหลไปที่หนังหุ้มปลาย
- อาจผิดรูปหรือเสียทรงได้ หากใช้งานในช่วงที่ฟิลเลอร์เซ็ตตัวหลังทำ 2 สัปดาห์
- ทำให้ลดความรู้สึกลงหากฉีดที่หัว (glans penis)ในปริมาณมาก
- ไม่ใช่เนื้อเยื่อจริง มีความนิ่มจากเนื้อฟิลเลอร์
- ไม่ถาวร
การฉีดเพิ่มขนาดเหมาะกับใคร
- คนที่ต้องการเพิ่มขนาดทันที
- คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด
- คนที่ขริบหนังหุ้มปลายมาแล้ว
ทำมั้ยต้องขลิบก่อนมาฉีดเพิ่มขนาด
การฉีดฟิลเลอร์จะฉีดใต้ผิวหนังจะแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อปลอกหุ้มอวัยวะชื่อ dartos fascia และ buck’s fascia ซึ่งหากมีหนังหุ้มปลายเหลือมากชั้น fascia นี้จะมีความหลวม จะทำให้ฟิลเลอร์ไหลมากองที่หนังหุ้มปลาย อาจทำให้ผลการฉีดไม่เป็นธรรมชาติได้
ข้อห้ามในการฉีด
- มีประวัติแพ้สาร HA
- แพ้ Lidocaine
- ห้ามฉีดในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ เพราะทำให้มีการติดเชื้อได้
- มีประวัติเกิดแผลเป็นนูนได้ง่าย ควรให้ความระมัดระวัง
การดูแลรักษาหลังฉีดเพิ่มขนาด
- ถ้ามีเลือดออกหลังการฉีด ให้ใช้ผ้าก๊อสกดไว้ประมาณ 5 นาที เลือดก็จะหยุด
- หากมีรอยช้ำ สามารถประคบเย็นได้ และรอยเขียวช้ำจะหายไปได้เองใน 7-10 วัน
- นวดบริเวณที่ฉีดประมาณ 1-2 นาที เช้า-เย็น จนกว่าผิวหนังที่ฉีดเรียบเสมอกัน
- ใส่กางเกงในหลวมๆ เพื่อป้องกันการกดทับ
- สามารถฉีดเติมได้ทุกเวลา ถ้ารู้สึกว่าตำแหน่งใดไม่เต็ม หรือฉีดเพิ่มได้เมื่อฟิลเลอร์เริ่มยุบตัวลง โดยทั่วไปประมาณ 8 เดือนหรือ 1 ปี หลังจากการฉีดครั้งแรก
- การแช่ออนเซน แช่น้ำอุณหภูมิสูงบ่อยๆ ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวไวได้
- การกระแทกที่รุนแรงในช่วงแรกอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้
